เมียศิลปินหนุ่มใหญ่ “อ๊อด โฟร์เอส” เล่าอีกมุม ปมทำร้ายร่างกายแฟนคลับล้ำเส้น เกินขีดความอดทน

       ครั้งนี้เขาทำเกินเหตุล้ำเส้นเกินไป เมีย “อ๊อด โฟร์เอส” เล่าอีกมุม ปมทำร้ายร่างกายแฟนคลับ กล่าวว่าไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเลย แต่ครั้งนี้มันเกินขีดความอดทน พร้อมขอขอบคุณแฟนคลับที่เข้าใจ

       จากกรณี “เจ๊แมว” ผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กับ สายไหมต้องรอด หลังอ้างโดนเมีย “อ๊อด โฟร์เอส” นักร้องดังรุ่นใหญ่ ทำร้ายร่างกาย พร้อมยื่นคลิปเหตุการณ์และใบรับรองแพทย์ โดยเจ๊แมวยังได้เปิดเผยอีกว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ในครั้งนี้มาก เพราะมีความชื่นชอบและรักคุณอ๊อด โฟร์เอสมาก เป็นแฟนคลับมานานล่าสุด วันที่ 11 มี.ค. 2566 นายจรินทร์ เกตุแดง อายุ 65 ปี หรือ อ๊อด โฟร์เอส นักร้องเพลงรำวงชื่อดัง ได้นำข้อมูลหลักฐานอีกมุม ส่งให้พร้อมแนบคลิปภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นที่งานวัดรางหวาย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี พร้อมเปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุขณะที่ตนร้องเพลงก็กำลังพูดถึงที่มาของวงอยู่ เห็นว่ามีเหตุชุลมุนเพียงแค่แป๊บเดียว ไม่รู้ว่าใครเป็นใครและไม่รู้สาเหตุที่มาที่ไปเป็นอย่างไรถึงได้มีการลงไม้ลงมือกัน จนสุดท้ายมาทราบว่าแฟนเพลงได้ทำร้ายกันเอง สำหรับตนนั้น รักแฟนเพลงทั้งหมดทุกๆคน ไม่อยากให้เกิดเรื่องหรือเหตุการณ์ที่ไม่ดีขึ้นบางทีเวลาออกวงก็มีแฟนเพลงเข้ามาใกล้ชิดสนิทสนมมากก็ไม่ได้ว่าแต่อย่างใด แต่มีความกังวลไปถึงคนในครอบครัวของแฟนเพลงเองด้วย ถ้าผู้หญิงมารำวงก็บอกให้นำความสุขกลับไปให้ผู้ชายหรือสามีที่รออยู่บ้านด้วย ส่วนผู้ชายมาก็ขอให้นำความสุขกลับไปให้เมียด้วยเช่นกัน หรือถ้ามาด้วยกันก็ขอให้มีความสุขร่วมกัน ซึ่งตนมีก้อนซีสต์ที่เอวด้วย เวลาทำการแสดงตนก็จะระมัดระวังตัวเองอยู่เสมอ ขณะที่ นายธเนศ เกตุแดง อายุ 36 ปี ลูกชายของอ๊อด โฟร์เอส ได้เล่าว่า เข้าใจแฟนเพลงแฟนคลับที่รักคุณพ่อทุกๆคน แต่ก็อยากให้ทุกคนมีความสุขกันอย่างถ้วนหน้า ส่วนแฟนคลับคนนี้แสดงอาการออกมากจนเกินไป ควรเว้นระยะห่างออกให้สักนิด เช่น การโน้มคอ การกอดเอวแล้วรัดก็ควรที่จะมีความพอดีพองาม ไม่ควรทำถึงขนาดนี้ ทุกครั้งเขาก็จะใช้มือมาบิดที่เอวของพ่อจนได้รับบาดเจ็บทุกครั้งไป ทางด้าน นางบุญยืน เกตุแดง อายุ 61 ปี ภรรยาของอ๊อด โฟร์เอส เล่าว่า คืนนั้นไปทำการแสดงที่วัดรางหวาย ก่อนหน้านั้นได้ไลฟ์สดการแสดงลงที่เฟซบุ๊ก โดยมีการแสดงความคิดเห็นของแฟนคลับคนหนึ่งที่โพสต์ข้อความด่าว่าเรา วันนั้นในงานแสดงได้เจอกับคู่กรณีคนนี้ จึงเดินเข้าไปไขข้อสงสัยแล้วถามว่าที่โพสต์แสดงความรู้สึกแบบนั้นหมายความว่าอย่างไร แต่คู่กรณีก็ใช้คำพูดแบบไม่มีความเกรงอกเกรงใจกัน ทำให้ฟิวส์ขาดเอามือดึงผม ซึ่งมีผู้ชายฝั่งนั้นเอาโทรศัพท์ตีมาที่หัวของเรา โดยมีลูกชายได้เข้ามาห้ามปรามแล้วก็แยกย้ายกันไป ตนก็เข้าใจเรื่องแฟนเพลงแฟนคลับของศิลปิน ที่ผ่านโดยตลอด ตนไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวอะไรเลย แต่ครั้งนี้เขาล้ำเส้นเราด้วยการโพสต์ข้อความด่าลงในเฟซบุ๊ก แต่จริงๆ เรื่องแบบนี้เราไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย แต่ครั้งนี้มันเกินขีดความอดทน เพราะที่ผ่านมาเราต้องขอขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่เข้าใจ.

Similar Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *