จับกุมหนุ่ม 18 มือเผาป่าดอยบ่อ จังหวัดเชียงราย ไฟไหม้วอดวายไปทั้งดอย อ้างล่าตัวต่อเพื่อกินไข่ ผู้ว่าฯสั่งดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

       ทหาร ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง ร่วมกันลาดตระเวนเพื่อดับไฟป่า พบหนุ่มวัย 18 ปีมีลักษณะพิรุธน่าสงสัยจึงสอบเค้นจนสุดท้ายรับสารภาพเป็นคนก่อเหตุเผาป่าในเขตป่าสงวนดอยบ่อ จ.เชียงราย พร้อมอ้างเหตุผลว่าเผาป่าเพื่อล่าตัวต่อ แต่ทำไฟไหม้วอดวายไปทั้งดอย ผู้ว่าฯ ยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

       เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เกิดเหตุไฟป่าในหลายพื้นที่ของ จ.เชียงราย และทำให้เกิดปริมาณฝุ่นละอองและหมอกควันปริมาณมากติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ปรากฏว่าขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหารบกที่ 37 สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 โดยหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ยาว สำนักจัดการป่าไม้ที่ 2 องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันลาดตระเวนเพื่อดับไฟป่าตามคำสั่งของ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์เหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน (ศบก.ไฟป่า) ส่วนหน้า จ.เชียงราย ปรากฏว่าขณะเจ้าหน้าที่ไปถึงป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดอยบ่อ ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย ได้พบกับไฟลุกไหม้และเกิดควันไฟคละคลุ้งไปทั่วบริเวณภูเขา และพบชายจำนวน 1 คน ทราบชื่อต่อมาว่า นายจันทัน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ชาว ต.แม่ยาว มีลักษณะพิรุธน่าสงสัย โดยขับขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนอยู่ใกล้กับเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้พงหญ้าและป่าละเมาะที่แห้งทำให้ไฟเกิดการลุกลามไปอย่างรวดเร็วปกคลุมเต็มขุนเขาเจ้าหน้าที่จึงได้เร่งกระจายกำลังกันเข้าไปเพื่อดับไฟอย่างเร็วที่สุด เบื้องต้นพบมีความเสียหายมากถึงประมาณ 3 ไร่ 3 งาน และ 17 ตารางวา และส่วนหนึ่งได้เข้าไปสอบถามนายจันทันก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนจุดไฟเผาป่าบริเวณดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวกักขังเอาไว้และสอบถามจึงได้ให้การสารภาพว่า เขาได้เผาพื้นที่จากบริเวณใต้เขาที่มีพงหญ้ารกเพื่อให้ไฟลามขึ้นมาด้านบนสาเหตุที่กระทำเช่นนั้นเพราะต้องการเผารังต่อเพื่อเอาไข่ต่อมาบริโภค ทั้งนี้ยอมรับว่าผู้ใหญ่บ้านได้ประกาศแจ้งเตือนไม่ให้เผาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแล้ว แต่ตนก็ยังฝ่าฝืนเข้าไปเผา เพื่อหวังจะได้รังต่อดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนำมาที่ศูนย์ฯ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

       ด้านนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าฯ เชียงราย กล่าวว่า ขณะที่คนนับร้อยคนต้องเข้าไปเพื่อดับไฟป่าด้วยความยากลำบากและคนนับแสนคนต้องได้รับความเดือดร้อนจากฝุ่นควันพิษ จึงขอให้คนที่ทำการเผาได้หยุดการเผาเพื่อให้มลพิษในอากาศลดน้อยลงและเพื่ออากาศที่ดีขึ้น และเจ้าหน้าที่จะค้นหาตัวคนเผาให้ถึงที่สุด ขณะที่ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่จังหวัดเชียงรายกำลังสาปแช่งคนที่ทำการเผา คนเผาก็จะได้ตราบาป และหากเจ้าหน้าที่จับไม่ได้ไล่ไม่ทันก็ไม่เป็นไร แต่หากจับได้ก็จะทำการดำเนินคดีให้ถึงที่สุดต่อไป

       รายงานจาก ศบก.ไฟป่า จ.เชียงราย แจ้งว่า ช่วงเช้าของวันที่ 29 มี.ค.นี้ เกิดจุดความร้อน หรือ Hot Spot ใน จ.เชียงราย จำนวนมากถึง 377 จุด โดยเกิดขึ้นมากที่สุดอยู่ที่เขต อ.เมืองเชียงราย จำนวน 89 จุด รองลงมาคือ อ.แม่สรวย จำนวน 71 จุด อ.เวียงป่าเป้า จำนวน 48 จุด อ.พาน จำนวน 29 จุด อ.แม่ฟ้าหลวง จำนวน 27 จุด ฯลฯ ซึ่งนอกจากทาง ศบก.ไฟป่า จ.เชียงราย จะระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าดับไฟตลอดทั้งวัน เพราะมีหลายจุดที่ไฟยังคุกรุ่น เช่น ดอยปุย ในอุทยานแห่งชาติแม่ปืม ป่าเขาลุ่มแม่น้ำกก เขตอุทยานแห่งชาติลุ่มแม่น้ำกก ดอยสะโง้ อ.เชียงแสน อุทยานแห่งชาติดอยหลวง อ.พาน ฯลฯ ล่าสุดทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ใช้เฮลิคอปเตอร์เพื่อระดมดับไฟป่า หรือ ฮ.ปักเป้า KA-32 บินมาจาก จ.เชียงใหม่ เพื่อไปช่วยสนับสนุนเพิ่มกำลังการดับไฟในพื้นที่รุนแรงแล้ว อย่างไรก็ตาม ฮ.ปักเป้า เดินทางมาถึงในช่วงบ่ายประมาณ 15.00 น. เนื่องจากช่วงเช้าสภาพอากาศยังปิดทำให้ไม่สามารถเดินทางมาได้ตามกำหนดการเดิม.

Similar Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *