ระวัง ตร.ไซเบอร์ เตือนภัย มิจฉาชีพหลอกปล่อยเงินกู้ ผ่านเว็บไซต์ทางการปลอม
ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัย มิจฉาชีพหลอกลวงให้กู้เงินผ่านเว็บไซต์ปลอม ปลอมไลน์เป็นธนาคารแห่งประเทศไทย ข่มขู่เหยื่อว่ากระทำการผิดกฎหมายแล้วให้โอนเงินเพิ่ม ดังนั้นควรระมัดระวังอย่าหลงเชื่อ พร้อมฝากแนวทางป้องกัน 8 ประการ
เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 66 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ประกาศเตือนภัยประชาชนให้เฝ้าระวัง กรณีมีมิจฉาชีพทำการหลอกลวงประชาชนให้ทำธุรกรรมการกู้เงินผ่านเว็บไซต์ปลอม และใช้ไลน์ธนาคารแห่งประเทศไทยปลอม ข่มขู่ว่ากระทำผิดกฎหมายให้เหยื่อโอนเงิน ได้รับรายงานจากกองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ตอท.) ว่าที่ผ่านมาพบว่ามีผู้เสียหายหลายรายถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้ทำธุรกรรมการกู้เงินผ่านเว็บไซต์ของ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (Country Group Holdings) ซึ่งถูกทำปลอมแปลงขึ้นมาให้มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับเว็บไซต์จริง โดยก่อนเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นผู้เสียหายได้เข้าไปเว็บไซต์ค้นหาแหล่งกู้เงินออนไลน์ ทำให้เจอเว็บไซต์ปลอมดังกล่าวนี้ มีการแอบอ้างว่าเป็นผู้ให้บริการด้านการเงินแบบครบวงจร สมัครง่าย ให้วงเงินไม่อั้น อนุมัติเร็ว ดอกเบี้ยต่ำ ไม่ตรวจสอบเครดิตบูโร ใช้เอกสารน้อย ปลอดภัย และมีกฎหมาย PDPA คุ้มครอง เป็นต้น จากนั้นเมื่อผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนทางไลน์เพื่อติดต่อไปขอรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ปลอมจะขอข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ภาพบัตรประชาชน เลขที่บัญชีธนาคาร แล้วทำสัญญาการกู้ยืมเงินปลอม เสร็จเรียบร้อยแล้วจะให้ทางผู้เสียหายโอนเงินอ้างว่าเป็นค่าธรรมเนียมการกู้ยืม ค่าเบี้ยประกัน หรือค่าอื่นๆ กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปแล้ว มิจฉาชีพก็สรรหาอ้างเหตุผลต่างๆนาๆ เพื่อทำให้ผู้เสียหายโอนเงินมาเพิ่มขึ้นอีก เช่น ทำการโอนเงินผิดบัญชี โอนเงินเกินเวลาที่กำหนด หรือทำธุรกรรมผิดพลาด จะต้องมีการติดต่อไปยังไลน์ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ทำปลอมขึ้น เมื่อผู้เสียหายติดต่อเข้าไปก็จะถูกข่มขู่ว่ากระทำผิดกฎหมายต่างๆนาๆ ให้ทำการโอนเงินมาเพิ่มอีก ผู้เสียหายรู้สึกสงสัยและเชื่อว่าตนถูกหลอกลวงจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมาย โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มว่า ในปัจจุบันมิจฉาชีพจะแอบอ้างเป็นผู้ให้บริการเกี่ยวกับเงินกู้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำการหลอกลวงประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ หรือผ่านข้อความสั้น (SMS) หรือโทรศัพท์ไปที่เบอร์ตรงเข้าถึงประชาชนได้อย่างง่ายดาย โฆษณาชวนเชื่อในลักษณะ กู้ง่าย อนุมัติเร็ว วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องมีหลักประกัน ใช้เอกสารน้อย เป็นต้น เพราะฉะนั้นประชาชนต้องพึงระวังการกู้เงินในลักษณะดังกล่าว ต้องรู้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพ ควรตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการได้รับการอนุญาตประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องหรือไม่ หากจำเป็นต้องกู้เงินควรเลือกกู้เงินจากสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือ และศึกษารายละเอียดของผู้ให้กู้เป็นอย่างดี รวมถึงมีสัญญาการกู้ยืมที่ชัดเจนและเที่ยงธรรม เพื่อป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบ หากพบเห็นความผิดปกติเพียงแค่เล็กน้อย หรือข้อเสนอที่ดีเกินไปควรหลีกเลี่ยง อย่าได้หลงเชื่อว่าตัวเองโชคดี จึงขอฝากประชาสัมพันธ์แนวทางป้องกันการถูกหลอกลวงให้กู้เงินออนไลน์ ดังนี้
1. ถ้าผู้ให้บริการกู้เงินรายใด แจ้งให้ผู้ขอกู้โอนเงินก่อน ไม่ว่าจะเป็นค่าใดๆ ก็ตาม สันนิษฐานไว้เลยว่าเป็นมิจฉาชีพหลอกลวงอย่างแน่นอน
2. ตรวจสอบผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตได้ที่เว็บไซต์ ธนาคารแห่งประเทศไทย www.bot.or.th
3. ถ้าหากเป็นเว็บไซต์ปลอมจะไม่สามารถเข้าถึงฟังก์ชั่นต่างๆ ของเว็บไซต์ได้ หวังแต่เพียงหลอกลวงให้เหยื่อเพิ่มเพื่อนทางไลน์เท่านั้น
4. ระวังไลน์ทางการที่ปลอมขึ้นมา ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีสัญลักษณ์ยืนยันตัวตนเป็นลักษณะโล่สีเขียว หรือโล่สีน้ำเงิน หรือไม่
5. ไม่ควรกู้เงินผ่านแอปพลิเคชัน ที่ถูกส่งลิงก์แนบมากับข้อความสั้น (SMS) หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ
6. แอปพลิเคชันเงินกู้นอกระบบ มักจะตั้งชื่อคล้ายคลึงหรือเหมือนกันกับผู้ให้บริการที่ได้รับการอนุญาต หรือแอบอ้างเป็นผู้ที่ได้รับการอนุญาต ควรสอบถามข้อมูลต่างๆ หรือหาข้อมูลด้วยตนเองจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ว่าเป็นแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการจริงหรือไม่
7. แอปพลิเคชันเงินกู้สามารถที่จะเข้าถึงข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อภายในโทรศัพท์ได้ มิจฉาชีพจะนำข้อมูลที่ได้มาไปใช้ในการข่มขู่บุคคลดังกล่าว เพื่อให้ผู้กู้อับอายขายขี้หน้าได้ เพื่อที่จะได้รีบนำเงินมาชำระโดยเร็ว
8. ไม่ควรหลงเชื่อเพียงเพราะมีการสร้างความน่าเชื่อ เช่น สอบถามข้อมูลส่วนตัว ให้ทำสัญญาการกู้เงิน และทำการขอเอกสารต่างๆ เช่น สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สมุดบัญชีเงินฝาก คล้ายกับการขอกู้ที่ธนาคารจริง