สรุปดราม่า “คิวเท” กับนักแสดงสาวญี่ปุ่น มินามิ มีเรื่องขัดใจ เข้าใจไม่ตรงกัน ยืนยันไม่ได้หักหลัง พร้อมลบคลิปทั้งหมด
สรุปประเด็นดราม่า “คิวเท โอปป้า” กับ “ฟุกุโอกะ มินามิ” หลังนักแสดงสาวชาวญี่ปุ่น โพสต์ IG มาร่วมถ่ายคลิปที่เมืองไทย แต่กลับไม่ได้ตรวจปรู๊ฟ ขณะที่ยูทูบเบอร์หนุ่มชี้แจงแล้ว
กลายเป็นดราม่า ที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ สำหรับยูทูบเบอร์เชื้อสายเกาหลี อย่าง “คิวเท โอปป้า” กับ “ฟุกุโอกะ มินามิ” นักแสดง และยูทูบเบอร์สายท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น เมื่อ “ฟุกุโอกะ มินามิ” ได้เดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย พร้อมทำคลิปร่วมกับ “คิวเท โอปป้า” ซึ่งคลิปที่กลายเป็นประเด็นขึ้นมา คือ คลิป Ep.4 เมื่อ มินามิ ได้เข้ามาคอมเมนต์ว่า “อย่าลงคลิปวิดีโอ โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้น มินามิ ได้โพสต์ลงบนอินสตาแกรมของตน เป็นภาษาไทย เนื้อหาระบุว่า ในคลิปที่ 4 นั้น มีเนื้อหาที่ไม่เป็นความจริง และเธอรู้สึกเสียใจมาก กลัวทุกคนที่ดูแล้วอาจจะเข้าใจผิดได้ เลยจะมาขอมาอธิบาย ซึ่งการติดต่อกับคิวเท ทั้งหมดเป็นการคุยผ่านผู้จัดการ ไม่ใช่คุยกับเธอโดยตรง ดังนั้น ถือว่าเป็นการตัดสินใจของบริษัท พวกเราไม่ได้ไปไทยเพื่อไปท่องเที่ยว เอาสนุกส่วนตัว แต่พวกเราใช้เวลาในการถ่ายทำเพื่อทำให้คลิปของเขาไปได้ดี เพื่อตอบแทนที่ได้รับเชิญมา พวกเราได้พยายามทำให้คลิปของเขาดูสนุกร่าเริง ในวันที่ไปทะเล ซึ่งฉันรู้สึดไม่ชอบเท่าไร แล้วพอนั่งเรือแล้วเกิดอาการไม่สู้ดีนัก คืนนั้นก็โดนเขามาติเตือนว่า ให้โฟกัสกับการถ่ายคลิปมากกว่านี้ ดังนั้นแม้จะต้องเข้าฉากที่อยู่ในน้ำ พวกเราก็พยายามยิ้มอย่างเต็มที่ค่ะ ทั้งๆ ที่ขาเป็นแผลอยู่แต่กลับโดนพาไปสระน้ำ แล้วบอกว่า”สปอนเซอร์เขาจองสระน้ำให้ฟรี ดังนั้นปฏิเสธไม่ได้” ทางเราก็คิดว่า เป็นคนดังมากจริงๆ ทำอะไรก็ฟรีไปหมด สุดยอดจริงๆ ชุดว่ายน้ำนั้นเราเตรียมไปเพื่อที่จะถ่ายรูปลง SNS ค่ะ ถึงแม้จะมีเรื่องเกิดขึ้นหลายอย่างตอนอยู่ที่ไทยก็ตาม ตอนเรากลับมาญี่ปุ่น เราก็ได้แสดงความขอบคุณแล้วบอกว่าเราจะรอให้คลิปตัดต่อเสร็จนะ แต่ไม่ว่าจะรอไปนานแค่ไหน ก็ไม่มีการติดต่อกลับมา พอรู้อีกทีคือเห็นในอินสตาแกรมของคิวเทขึ้นว่าจะปล่อยคลิปวันพรุ่งนี้ เราเลยได้ทำการติดต่อไปก่อนที่ Ep1 จะถูกอัป บอกว่าก่อนทำการอัปคลิปลงโซเชียล ทางเราอยากจะขอเช็กดูพวกฉากชุดว่ายน้ำ หรือฉากที่เห็นเนื้อหนังมากเกินไป และฉากอื่นๆ ด้วยแต่กลับโดนบอกว่า เวลากระชั้นชิดเกินไปให้เช็กไม่ได้ ทางเราจึงขอโทษที่บอกล่าช้าไปและถามว่าขอเช็ก Ep2 ได้มั้ย ซึ่งก็โดนตอบกลับมาว่าไม่ได้ แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่อมาอีกเลย ตามมารยาทแล้วเราอยากให้ส่งคลิปมาให้ตรวจสอบดูก่อนวันสองวันด้วยซ้ำไป และถึงจะทำแบบนั้นไม่ได้ แต่คลิปของวันที่ 2 เรามีสิทธิที่ควรจะได้ตรวจเช็กดูก่อน ตอนนี้ได้ถูกปลดบล็อกแล้ว แต่พวกเราทั้งคู่ได้ถูกเขาบล็อก ทั้งอินสตาแกรม และ TikTok ค่ะ พวกเราตื่นเต้นอย่างมากและรอคอยที่จะได้ดูคลิปที่ตัดต่อเสร็จสิ้น แต่กลับถูกเมินข้อความที่ส่งไป จนกลายเป็นเรื่องแบบนี้ไป เรารู้สึกเสียใจอย่างมาก เราจึงบอกเขาว่า “ถ้าจะไม่ยอมตอบข้อความเรา เราจะพูด ความจริงเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้บนSNSนะ” แต่ผ่านไปหลายวันก็ไม่มีการตอบกลับมา แม้แต่ตอนนี้ LINE ยังติดต่อกันได้แท้ๆ ก็ยัง ไม่มีการส่งข้อความมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว พวกเราไม่ได้โกรธแค้นเขา แค่อยากคุยกันให้เคลียร์ให้เข้าใจกัน แต่กลับโดนเมินใส่ เราไม่ได้ขู่อะไรเขาเลยด้วยซ้ำ การที่คลิปที่ผ้าเช็ดตัวของมินามิที่บางจนมองเห็นผิวด้านล่าง หรือคลิปที่ข้อมูลพาสปอร์ตของอาโออิถ่ายติดไปนั้นถูกโพสต์ออกไป ปัญหาเหล่านั้นเกิดขึ้นเพราะไม่มีการได้ตรวจเช็กก่อนเลย เราจึงเสียใจมากจริงๆ ค่ะ แต่คลิปล่าสุดที่ถูกโพสต์ออกมากลับดูเหมือนเราเป็นฝ่ายแย่ รู้สึกผิดหวังจริงๆ ค่ะ เสียใจมากค่ะ พวกเราไม่ได้อยากจะหาเรื่องกับคิวเทเลแต่อย่างใด แต่พวกเราแค่อยากให้คิดถึงเป็นห่วงเรื่องที่จะไม่ให้มีผลกระทบกับการงานของเราบ้าง ต่อมา คิวเท ได้ลบคลิปวิดีโอตอนที่ 1-3 หมดแล้วพร้อมระบุว่า เป็นปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ชั่วคราว และอยู่ระหว่างการแก้ไข แต่เจ้าตัวยืนยันว่า คลิปที่ลงเป็นลิขสิทธิ์ของตนเองล่าสุด คิวเท ได้อัดคลิปขอโทษทุกคนที่ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้น พร้อมกับชี้แจงถึงปัญหาดราม่าที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ตอนที่ได้ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น ไปนั่งแท็กซี่คันหนึ่ง ซึ่งมีจอโทรทัศน์ ทำให้เห็นโฆษณา ดาราสาวคนหนึ่ง มีเสน่ห์มาก จึงชวนมาถ่ายคลิปด้วยกัน และเขาก็ตกลงว่า วันรุ่งขึ้น จะมาถ่ายคลิปด้วย โดยมาพร้อมผู้จัดการคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้หญิง ก่อนเริ่มถ่ายทำคลิปก็มีการคุยกันถึง Policy ว่า มีข้อห้าม หรือกฎ อะไรหรือไม่ เพราะตนก็ไม่เคยถ่ายกับดาราญี่ปุ่น เขาก็บอกว่า ไม่มีอะไร ถ่ายและสามารถเอาไปลงได้เลย เราก็มีความสบายใจระดับหนึ่ง เขาใจดีมาก ก่อนถ่ายได้หนึ่งคลิป มีการลงไปแล้ว แฟนคลับก็ชอบ สาวๆ ก็ชอบ เพราะมีแฟนคลับเข้าไปชื่นชมเขา