ระวังโควิดสายพันธุ์ใหม่ กลับมาระบาดอีกครั้งแพร่กระจายเร็ว หลบภูมิคุ้มกันทำให้ “ตาแดง” “ป๋อ-เอ๋” ติดเชื้อทั้งคู่

     ระวังโควิดสายพันธุ์ใหม่ กลับมาระบาดอีกครั้ง หลบหลีกภูมิคุ้มกันทำให้ “ตาแดง” “ป๋อ-เอ๋” ติดเชื้อทั้งคู่ กรมควบคุมโรคคาดการณ์หลังสงกรานต์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นแน่ ส่อมากกว่าช่วงปีใหม่ หลังจากที่มีการเดินทาง ทำกิจกรรมร่วมกันจำนวนมาก มั่นใจเตรียมยา เวชภัณฑ์ เตียง รพ.ไว้ให้เพียงพอ แนะนำสังเกตอาการใน 7 วัน หลีกห่างจากผู้สูงวัย-ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ย้ำวัคซีนยังช่วยกันป่วยหนัก ขณะที่พบ XBB.1.16 ในไทยแล้ว 6 ราย เป็นสายพันธุ์ม้ามืดมาแรงหลบหลีกภูมิได้ดี ด้าน “ป๋อ-ณัฐวุฒิ” ติดโควิดรับสงกรานต์ถึงขั้นต้องนอนโรงหมอ ขณะที่ “เอ๋-พรทิพย์” ไม่รอด ติดเชื้อตามสามีแต่อาการยังไม่หนัก
หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในไทยคลี่คลายลงไปมาก แต่หลังช่วงสงกรานต์ปีนี้ ในไทยมีแนวโน้มพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น 

     เมื่อวันที่ 15 เม.ย. นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า เป็นไปตามที่กรมควบคุมโรค (คร.) คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าช่วงสงกรานต์จะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการทำกิจกรรมร่วมกัน การเดินทางมีโอกาสที่จะสัมผัสผู้ติดเชื้อได้ และเท่าที่รับรายงานตามโรงพยาบาลมีผู้ป่วยโควิด-19 เข้ามารับการรักษาเพิ่มขึ้น แต่มีอาการที่ไม่รุนแรง เมื่อซักประวัติส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนมาแล้ว และบางคนเคยติดเชื้อมาแล้ว ทำให้ยังมีภูมิคุ้มกันแสดงอาการที่ไม่หนัก นพ.โสภณกล่าวอีกว่า สัปดาห์หน้าน่าจะเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนมากขึ้นแน่นอน คาดว่าจะมีจำนวนมากกว่าช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เพราะจากภาพข่าวผ่านสื่อต่างๆ ผู้คนออกมาสนุกสนานร่วมกิจกรรมในเทศกาลสงกรานต์จำนวนมาก มีการใกล้ชิดผู้คนที่ไม่รู้จัก และขณะนี้มีการผ่อนคลายมาตรการ ไม่ได้มีการตรวจเชื้อก่อนเข้าทำกิจกรรม เป็นความเสี่ยงที่อาจจะเกิดการติดเชื้อได้ แต่มองในแง่บวกคนที่ออกมาเล่นสงกรานต์ส่วนใหญ่เป็นเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน น่าจะยังมีภูมิคุ้มกันที่ดี ข้อแนะนำหลังสงกรานต์ให้เฝ้าระวังสังเกตอาการของตัวเองภายใน 7 วัน หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อรัง หากเริ่มมีอาการไข้ เจ็บคอ มีน้ำมูก ครั่นเนื้อครั่นตัว ให้ตรวจ ATK หากผลเป็นบวกให้ปรึกษาแพทย์รักษาตามสิทธิ ไม่แนะนำตรวจ ATK ในขณะที่ยังไม่มีอาการ ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อที่คาดการณ์จะเพิ่มสูงขึ้นนั้น ระบบการรักษาพยาบาลมียา เวชภัณฑ์ รวมถึงเตียงรองรับที่เพียงพอ ไม่เกินศักยภาพของ รพ.ที่จะรองรับได้แน่นอน รองอธิบดีกรมควบคุมโรคยังกล่าวถึงกรณีที่นักวิชาการระบุถึงสายพันธุ์โควิดลูกผสม XBB.1.16 ที่ขณะนี้มีการแพร่กระจายมากขึ้นไปทั่วโลก โดยเฉพาะที่ประเทศอินเดีย มีสมรรถนะการแพร่ที่สูงขึ้นกว่าสายพันธุ์อื่น ทั้งยังดื้อต่อภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติและภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนว่า XBB.1.16 ยังเป็นลูกหลานจากตระกูลโอมิครอน ไม่เหมือนสายพันธุ์ในอดีตที่เป็นตัวต้นตระกูลที่กลายพันธุ์ ทั้งอู่ฮั่น อัลฟา เบตา เดลตา ดังนั้น วัคซีนที่ฉีดยังป้องกันการป่วยหนักได้อย่างแน่นอน แม้จะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น ได้มีการรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ขณะที่ ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า จากฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมโควิดโลก หรือ GISAID ล่าสุด มีการรายงานการระบาดของโอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม XBB.1.16 ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อแล้วจำนวน 6 ราย และยังพบ XBB.1.16.1 ในไทยอีก 1 ราย เป็นสายพันธุ์ที่แตกแขนงจาก XBB.1.16 ที่เริ่มพบการแพร่ระบาดในอินเดียแล้ว ทั่วโลกรายงานผู้ติดเชื้อโควิดลูกผสม XBB.1.16 จำนวน 887 คน พบที่อินเดียมากที่สุดจำนวน 539 คน XBB.1.16 มีการกลายพันธุ์บริเวณหนามของไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติม 3 ตำแหน่งคือ E180V K478R และ S486P ทำให้เชื้อสามารถเกาะติดและติดเชื้อในเซลล์ของมนุษย์ได้ดีมากกว่าทุกสายพันธุ์ที่ระบาดไปทั่วโลก การกลายพันธุ์ในตำแหน่ง K478R อาจทำให้สายพันธุ์นี้เอาชนะแอนติบอดีจากการติดเชื้อตามธรรมชาติได้ และจากการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น สำหรับอาการโควิด XBB.1.16 จะมีความแตกต่างจากโควิดก่อนหน้านี้ มีอาการไข้สูง ไอ และเยื่อบุตาอักเสบตาแดง ลักษณะคล้ายตาแดง มีผื่นคัน และส่วนใหญ่อาการนี้จะพบได้ในเด็กมากขึ้น กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันจากประเทศอินเดีย สังเกตเห็นอาการจากการติดเชื้อ XBB.1.16 ที่แพร่ระบาดระลอกใหม่ในอินเดียในกลุ่มเด็กทารก พบว่ามีอาการไข้สูง อาการหวัด และไอ จากนั้นพบอาการที่เด่นชัดคือมีเยื่อบุตาอักเสบ มีอาการคันตา ขี้ตาเหนียว ทำให้ลืมเปลือกตาไม่ขึ้น แต่ไม่ได้เป็นหนอง ไม่เคยพบอาการลักษณะนี้ในโอมิครอนสายพันธุ์อื่น แม้จะมีผู้ติดเชื้อโอมิครอน XBB.1.16 เพิ่มขึ้น ถือเป็นสายพันธุ์ม้ามืดที่แพร่กระจายเร็ว แต่จำนวนผู้ที่ต้องเข้ารักษาตัวใน รพ.ยังไม่เพิ่มขึ้นตามจนเกินขีดความสามารถที่ระบบสาธารณสุขในแต่ละประเทศจะรองรับได้ ต้องติดตามเฝ้าระวัง เป็นการตระหนักแต่ไม่ตระหนก

     สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในวงการบันเทิงที่หวนกลับมาอีกครั้ง เมื่อนักแสดงหนุ่ม “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ” โพสต์ในอินสตาแกรมเมื่อวันที่ 14 เม.ย.ว่าได้ล้มป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาล ติดโควิด-19 รับสงกรานต์หลังจากที่รอดมาทุกซีซัน โดยป๋อมีอาการเจ็บคอเหมือนโดนมีดกรีดที่คอ ไอเสมหะมีสีปนเลือด มีอาการไซนัสอักเสบ และเลือดมีค่าการอักเสบสูง จนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และเตือนผู้คนที่กำลังเที่ยวสงกรานต์ให้ระมัดระวังกันด้วย เมื่อไปรดน้ำดำหัวเจอผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ แนะนำให้สวมหน้ากากเพราะโควิดยังคงอยู่กับเรา ทำให้มีแฟนคลับและเพื่อนพี่น้องในวงการเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจจำนวนมาก ต่อมา “เอ๋-พรทิพย์ สกิดใจ” นักแสดงสาวโพสต์แจ้งว่าติดเชื้อโควิด-19 ตาม “ป๋อ-ณัฐวุฒิ” สามีเช่นกัน แต่อาการไม่หนักมาก คอยอยู่เฝ้าอาการป๋อซึ่งอาการดีขึ้นแล้ว แต่ต้องอยู่ฉีดยาให้ครบโดส และรอให้ปอดหายฝ้าจึงกลับบ้านได้ ส่วนลูกชายทั้ง 2 คนปลอดภัยดี ขอบคุณทุกข้อความและทุกกำลังใจ

Similar Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *