เล่านาทีสุดผวา ชายสติไม่ดีมีโซ่คล้องคอ กระโดดขึ้นมาบนฝากระโปรงรถ เดินเหยียบหลังคารถ แล้วหลบหนีไป คาดหนีออกมา
เปิดใจ สาวผู้เป็นเจ้าของรถ เล่านาทีผวา สุดตกใจ ชายสติไม่ดีมีโซ่คล้องคอได้กระโดดขึ้นมาบนที่ฝากระโปรง เดินเหยียบบนหลังคารถจนได้รับความเสียหาย คาดว่าหนีออกมาจากการที่ถูกแม่ล่ามไว้
วันที่ 16 พฤษภาคม 2566 มีรายงานว่า จากกรณีสาวราชบุรีโพสต์คลิปเหตุการณ์ช่วงหัวค่ำวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีหนุ่มคล้ายมีอาการสติไม่ดี มีโซ่ล่ามอยู่ที่บริเวณคอได้ทำการกระโดดขึ้นมาที่ฝากระโปรงรถ และเดินเหยียบบนหลังคารถจนทำให้ได้รับความเสียหาย และได้เดินหนีหายไปอย่างหน้าตาเฉย โดยหลังจากที่ได้แชร์คลิปดังกล่าวออกไป ก็ต่างมีเพื่อนของเธอเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันต่างๆ นานา แสดงถึงความไม่ปลอดภัยที่ได้เกิดขึ้น เพราะเหตุเกิดในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ น.ส.พิมพ์พรรณ ตาดไทยสงค์ อายุ 40 ปี เจ้าของคลิปดังกล่าว ได้เล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 14 พฤษภาคม ช่วงเวลาประมาณ 19.40 น. ตนเองและครอบครัวกำลังขับรถยนต์เพื่อไปหาอะไรทาน จนมาถึงบริเวณหน้าตลาดกำนันยงค์ ซึ่งขณะนั้นสามีของตนได้จอดรถเข้าที่ข้างทาง ได้เห็นผู้ชายคล้ายมีอาการสติไม่ดี อายุประมาณ 25 ปี มีผมยาวและมีโซ่ลามอยู่ที่บริเวณคอ เดินมาที่บริเวณหน้ารถ แล้วจ้องเข้ามาในรถที่ตนนั่งอยู่และได้กระโดดขึ้นฝากระโปรงรถ และเดินเหยียบหลังคาลงไปข้างหลังรถของเธออย่างสบายใจ ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ขณะนั้นตนและครอบครัวรู้สึกตกใจและกลัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะลูกชายอายุ 6 ขวบ และลูกสาวอายุ 4 ขวบ ตกใจจนร้องไห้ ตนจึงรีบล็อกรถและนั่งอยู่ในรถรอจนชายคนดังกล่าวเดินหนีไป จึงเปิดประตูลงไปสำรวจความเสียหาย และขับรถออกจากที่เกิดเหตุทันที จากนั้นได้แจ้งเพื่อนที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ และเดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองราชบุรี ก่อนประสานกับเจ้าหน้าที่ประกันเพื่อเคลมประกันค่าซ่อมรถที่เสียหาย น.ส.พิมพ์พรรณ เล่าต่ออีกว่า จากข้อมูลชายคนดังกล่าวเป็นชายสติไม่ดี และถูกแม่ของเขาลามโซ่ขังไว้เพื่อไม่ให้มาสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านคนอื่น แต่เขาก็ได้หนีออกมา และได้สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้กับชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ชายคนดังกล่าว เคยได้ไปทำการแก้ผ้าแล้วเข้าไปก่อเหตุภายในร้านสะดวกซื้อและร้านขายดอกไม้ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปจับกุมให้ไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก เหตุการณ์ในครั้งนี้ โชคดีที่ครอบครัวของตนและลูกๆ ไม่ได้รับอันตรายใดๆ จึงอยากฝากเตือนทุกคน เวลาออกไปไหนมาไหนให้ระวัง เพราะเราไม่รู้ว่าใครเป็นคนสติไม่ดี เพราะถ้าเจอเข้ากับตัว อาจจะไม่โชคดีเหมือนครอบครัวของตนก็ได้ และอยากฝากถึงหน่วยงานรับผิดชอบและแม่ของชายคนดังกล่าว ให้คอยดูแลเขาให้ดียิ่งกว่านี้ เพื่อไม่ให้มาสร้างความเดือดร้อนให้กับใครอีก